วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563

นิยาย วุ่นรักคุณเจ้าหนี้ ตอน1 (#อ่านฟรี)

ชีวิตที่ต้องดิ้นรนท่ามกลางอุปสรรคที่เข้ามา
หญิงสาวผู้ที่มีชะตาพลิกผันกลายเป็นลูกหนี้
เพราะลุงได้สร้างเอาไว้โดยที่เธอไม่เคยรับรู้
เธอจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร  
ชีวิตเธอจะวุ่นวายขนาดไหน 
จะมีใครช่วยเธอได้บ้างหรือไม่
คงอยู่ที่ดวงชะตาของเธอเท่านั้น

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ 
รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ถ่ายภาพ 
ไม่ว่าในรูปแบบวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ 
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
ยกเว้นเพื่อการประชาสัมพันธ์เท่านั้น

(ชื่อตัวละคร สถานที่ สถานการณ์ ทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องสมมุติเท่านั้น)
 


ตอนที่ ๑
เมื่อความซวยมาเยือน


ในเมืองใหญ่ที่วุ่นวาย ถนนอย่างกับลานจอดรถ สภาพแบบนี้เห็นได้ชินตา ทุกครั้งที่คุณก้าวเท้าออกจากที่พำนักพักพิง และอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณบ้างก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ จึงต้องอาศัยวิชาการเอาตัวรอดกันเอาเอง ด้วยเป็นเมืองใหญ่ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างก็เข้ามาแสวงหาโชคจากที่นี่ เช่นเดียวกับขิงที่กำลังตะลอนหางานทำหลังจากที่ได้รับปริญญา ขิงออกมาอยู่หอพักเพียงลำพังตั้งแต่เธอเรียนยังไม่จบ เพื่อให้สะดวกในการเดินทางไปเรียน และทำงานพิเศษร่วมไปด้วย หวังจะได้แบ่งเบาค่าใช้จ่ายของแม่ จนกระทั่งเธอเรียนจบแล้วก็ยังคงตะลอนหางานอย่างไม่หยุดยั้ง
ยุคเทคโนโลยีที่อะไรๆ ก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อเพื่อความสบายสะดวกรวดเร็ว  ทำให้คู่แข่งของเธอมีมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงหาวิธีสมัครงานหลายๆ วิธี ไม่ว่าจะสมัครทางอีเมล ฝากประวัติไว้กับเว็บไซต์จัดหางาน หรือแม้กระทั่ง Walk in 
“ช่วงนี้งานหายากจังเลย ร่อนใบสมัครหลายที่แล้วนะเนี่ย”
เธอบ่น
 “ตืดๆๆ”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอรีบรับสายด้วยหวังว่าสายนั้นจะเรียกเธอไปสัมภาษณ์
“สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เป็นโปรโมชั่น...”
เธอกดสายนั้นทิ้งทันทีที่ได้ยินเสียงเช่นนี้
“เฮ้อ! ฉันรอเรียกสัมภาษณ์งาน ไม่ใช่รอสายคอลเซนเตอร์โปรโมชั่น” เธอบ่นอีกครั้ง
เธอตัดสินใจไปเดินเตร่ในห้างสรรพสินค้าแก้เซ็ง สายตาก็เหลือบมองข้อความตามที่แปะหน้าร้านที่เดินผ่าน เผื่อจะมีงานที่เธอทำได้บ้าง 
“คนที่จบไปแล้ว เขาหางานกันได้บ้างมั้ยนะ” ใจเธอคิดไปถึงเพื่อนในกลุ่มที่ได้ตัดสินใจกลับไปหางานทำที่บ้านเกิด 
เธอหยุดเดินแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า นิ้วมือปัดหน้าจอเลื่อนขึ้นเลื่อนลง ดูความเป็นไปของเพื่อนๆ ผ่านทางสื่อออนไลน์ 
“โอ้โฮ...สวนทุเรียน นี่ก็สวนยาง นี่ก็ครู แต่ละคนนี่ไม่ต้องร่อนหางานแล้วมั้ง”
เธอเดินวนไปวนมาเกือบทุกชั้น สุดท้ายก็มาหยุดที่ร้านหนังสือ ผู้คนในร้านช่างน้อยนิด เธอจึงเดินเข้าไปข้างใน สายตามองหนังสือที่ชั้น หนังสือแต่ละเล่มแลดูเงียบเหงา นั่นเป็นเพราะใจ เธอเองที่รู้สึกเดียวดายอยู่รึเปล่าเธอไม่แน่ใจ หนังสือที่ลดราคาถูกกองอยู่บนโต๊ะ คงรอคนที่เป็นเจ้าของมาพากลับบ้านไปด้วย...ใช่...เธอคิดเช่นนั้น สายตาเธอมองไปยังโซนของเล่นเสริมทักษะ สำหรับเด็กแล้วมันก็เป็นเรื่องน่าสนับสนุนอย่างหนึ่ง 
“เจ้าลูกสี่เหลี่ยมนั่น”
สายตาเธอไปสะดุดกับของเล่นชิ้นหนึ่งเข้าให้ สิ่งนั้นทำให้เธอเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาดู
“โอ้โฮ! ตั้งสองร้อยเชียว” เธอตกใจกับราคาของสินค้านั้น แต่เธอก็หยิบมันขึ้นมา สองเท้าก้าวเดินไปยังโต๊ะแคชเชียร์
“เจ้าลูกนี้ หน้าตาแปลกดี ชื่ออะไรคะ” เธอถามแคชเชียร์
“ตัวนี้ฟิชเชอร์คิวบ์ค่ะ” แคชเชียร์มองที่ลูกสี่เหลี่ยมในมือเธอ
“อันนี้หมุนลื่นมั้ยคะ” เธอถามด้วยความสงสัย
“ลื่นค่ะ เคยเล่นแล้ว” แคชเชียร์ยืนยัน
“เคยเล่นแล้วเหรอคะ ยากมั้ยคะ” เธอเริ่มสนใจ
“แรกๆก็ไม่เข้าใจค่ะ แต่เล่นไปสักพักก็เริ่มทำได้ แต่ว่าก็ยังเล่นได้ไม่เร็วค่ะ อันนี้ดูวิธีเล่นในยูทูบได้นะคะ มีคนสอนเล่นอยู่ค่ะ” แคชเชียร์เล่าให้เธอฟัง
“เอ่อ...งั้นเอาอันนี้นะคะ แล้วเดี๋ยวขอดูหนังสืออีกสักนิดนึงเดี๋ยวมาค่ะ” เธอตัดสินใจในฉับพลัน
“ได้ค่ะ” แคชเชียร์ยิ้ม
สักพักเธอก็เดินกลับมาพร้อมกับหนังสือหนึ่งเล่ม มันเป็นหนังสือนิยายลดราคา ที่กองอยู่บนโต๊ะที่เธอเดินผ่านมานั่นเอง เธอจ่ายเงินสำหรับของเล่นและหนังสือนิยายให้แคชเชียร์
“ไม่ต้องใส่ถุงค่ะ เดี๋ยวใส่กระเป๋าไปเลย อ่อ...ขอบิลด้วยค่ะ”
เธอต้องการลดถุงพลาสติกช่วยโลกร้อน แต่ก็ต้องป้องกันตัวไว้ด้วยว่าเธอไม่ได้ขโมยสินค้า ก็ต้องเอาบิลชำระเงินเก็บไว้เป็นหลักฐานการชำระสินค้านั้นแล้ว
หลังจากเดินเล่นต่อสักพักเธอก็เดินออกไปที่ป้ายรถเมล์ เพื่อขึ้นรถกลับหอพัก
ความซวยมันไม่เข้าใครออกใคร เธอเองก็ยังต้องประสบพบเจอเช่นกัน เมื่อเธอกลับมาที่ห้องพักก็มีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลโทรมาแจ้งข่าวร้ายให้เธอรับทราบ
“ตืดๆๆ”
“เบอร์แปลกๆ หรือว่าโทรนัดสัมภาษณ์ วันนี้วันศุกร์... แต่คนก็เลิกงานกันหมดแล้วด้วย... คงไม่ใช่มั้ง” เธอพิจารณาเบอร์ของสายเรียกเข้าสายนั้นแล้วตัดสินใจรับสาย
ทันทีที่เธอกดรับสาย ปลายสายได้แจ้งข่าวสำคัญแก่เธอ เมื่อได้รับข่าวนั้น น้ำตาเริ่มไหลนองเต็มใบหน้าเธอ เธอหยุดร้องไห้ไม่ได้ สติไม่อยู่กับตัว ความสูญเสียเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อต้องเสียมารดาที่เธอรักไป 
เธอรีบไปที่โรงพยาบาลทันที เพื่อจัดการเรื่องรับศพ แล้วยังต้องติดต่อเรื่องวัดเพื่อทำพิธี
การจัดงานศพเป็นไปโดยเรียบง่าย เพราะเธอไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้ว เท่าที่มีก็เป็นลุงที่ไม่เอาไหน สำมะเลเทเมาได้ทุกวี่วัน แต่ตอนนี้เขานั้นก็ได้จากโลกนี้ไปพร้อมกับแม่ของเธอด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่สามารถหาเบาะแสเอาผิดใครได้ ในงานก็จะมีบรรดาเพื่อนร่วมงานร้านเสริมสวยที่แม่เธอไปทำงานด้วยเพียงสามสี่คน ส่วนผู้คนในหมู่บ้านก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับใครนัก

ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องย้ายจากหอพักกลับมาอยู่ที่บ้าน เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พ่อของเธอทิ้งไว้เป็นมรดกแก่แม่นั้นตอนนี้กลายมาเป็นบ้านของเธอแล้ว แต่ทว่าความซวยยังไม่หนีจากเธอไปง่ายๆ เมื่อมีคนมาที่บ้านเธอ ด้วยได้ข่าวการเสียชีวิตของลุงเธอ 
บ่ายวันอาทิตย์หญิงวัยกลางคนมาพร้อมกับลูกน้องอีก สองคน กดกริ่งหน้าบ้าน หล่อนแจ้งว่าลุงของเธอนั้นได้จำนองบ้านหลังนี้ไว้กับหล่อนด้วยเงินต้นห้าแสนบาท หล่อนยื่นใบสัญญาให้เธอดู หากไม่มีการชำระบ้านหลังนี้ก็จะหลุดทันที
“ห้าแสน” หญิงสาวเห็นจำนวนตัวเลขในใบสัญญานั้นทำให้เจ็บแค้นชายผู้นี้อย่างมากที่บังอาจนำสมบัติล้ำค่าสิ่งเดียวที่พ่อมอบไว้ให้แม่ของเธอไปผลาญเยี่ยงนี้
 “ฉันจะมาเก็บเงินทุกสิ้นเดือน มีเงินต้นก็จ่ายมาพร้อมดอก ถ้าต้นลดดอกเบี้ยก็ลด ฉันก็เป็นลูกค้าแม่เธอ ฉันไม่โกงหรอกนะ” เจ้าหนี้แจ้ง

หลังจากที่เจ้าหนี้กลับไป เธอถึงกับกุมขมับ เพราะงานก็ยังหาไม่ได้ เงินในบัญชีที่เก็บหอมรอมริบเอาไว้ก็หมดไปกับงานศพ
“เหลือแค่แสนกว่าบาท มันไม่พอแน่ เพื่อนๆก็ดูท่าจะยุ่ง จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย” 

เธอมองตัวเลขในสมุดบัญชีธนาคารแล้วก็ได้แต่ถอดถอนใจด้วยหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไม่ได้

ค่ำคืนนั้นทำให้เธอนอนหลับไม่สนิท คิดแต่เรื่องหนี้สินที่ตัวไม่ได้เป็นคนก่อ แต่ต้องมานั่งรับผิดชอบ เพราะถ้าหากไม่ใช้หนี้ เธอก็ไม่มีที่จะอยู่อาศัย สมบัติเพียงชิ้นเดียวที่เป็นน้ำพักน้ำแรงของพ่อที่ให้ไว้ก็จะสูญเปล่า เธอจะต้องรักษาบ้านหลังนี้ไว้ให้ได้
“โอ๊ย! เลยนอนไม่หลับเลย จะทำยังไงเนี่ย”
เธอเอาผ้าห่มคลุมหัวนอนคลุมโปง พยายามข่มตาให้หลับ แต่แล้วน้ำตาก็หลั่งไหลออกมา เธอร้องไห้อยู่เพียงลำพัง ค่ำคืนที่ทรมานมันช่างแสนจะยาวนานเหลือเกิน เสียงสะอื้นเบาๆ น้ำตาหยดลงบนหมอนที่เธอหนุน มันยังคงไหลอยู่อย่างนั้นจนเธอหลับไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิธี ถักกระเป๋าโครเชต์ทรงถุงแกง

 ถักกระเป๋าโครเชต์ทรงถุงแกงแบบการต่อแผ่นสี่เหลี่ยมตามภาพนี้  นักถักสามารถเพิ่มจำนวนแถวของแผ่นสี่เหลี่ยมเพื่อให้ได้กระเป๋าใบใหญ่ขึ้นได้ค่ะ เม...